เรอัล มาดริด นำเป็นจ่าฝูงร่วม หลังเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา ไป 3 – 1 ประตู โดย คาริม เบนเซม่า ยิงคนเดียว 2 ประตู
เรอัล มาดริด ที่เริ่มคืนฟอร์มชนะมา 3 นัดติดจากทุกรายการ ไม่มี กาเซมีโร่ ที่ติดโทาแบน แต่ก็ได้ เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ ฟิตกลับมาเสียบแดนกลางแทนพอดี ส่วน แอธเลติก บิลเบา วาง อินญากี้ วิลเลียมส์ เป็นหน้าเป้า
เริ่มเกมมาเพียง 13 นาที แอธเลติก บิลเบา ก็ต้องเสียเปรียบผู้เล่นเมื่อ ราอูล การ์เซีย ทำฟาวล์ โทนี่ โครส จนโดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกไป ทีมเยือนจึงเหลือ 10 คน
นาที 23 ราชัน ได้ลุ้นจากจังหวะที่ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ เติมเกมฝั่งซ้ายก่อนเปิดให้ เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่หลุดกรอบ
เรอัล มาดริด หาจังหวะได้อีกใน 6 นาทีต่อมาจากการยิงหน้าเขตโทษของ โทนี่ โครส แต่ก็ไม่เข้ากรอบอีกตามเคย
ช่วงทดเจ็บ เรอัล มาดริด ได้ประตูนำ 1-0 สำเร็จเมื่อ วินิซิอุส ได้บอลในเขตโทษแต่พลิกยิงไม่ได้จึงจ่ายย้อนกลับออกมาให้ โทนี่ โครส วิ่งมาตะบันเต็มข้อส่งบอลพุ่งเบียดเสาเข้าไปสวยงาม และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้
ครึ่งหลังนาที 52 บิลเบา ตามตีเสมอ 1-1 ได้จากจังหวะที่ ออสการ์ เด มาร์กอส จ่ายบอลให้ อันเดร์ กาป้า ยิงจังหวะแรกติดเซฟ ติโบต์ กูร์กตัวส์ แต่บอลเด้งเข้าทางได้ซ้ำด้วยซ้ายเช้าไปไม่เหลือ
อีก 2 นาทีถัดมา ดาเนียล การ์บาฆา ดีดบอลให้ วินิซิอุส ยิงจ่อๆ เข้าไป แต่ถูกจับล้ำหน้าเสียก่อนจึงไม่ได้ประตูนำอีกรอบ
นาที 65 เรอัล มาดริด มีโอกาสอีกครั้งเมื่อ ลูก้า โมดริช จ่ายให้ โทนี่ โครส วิ่งมายิงทันทีจากหน้าเขตโทษ แต่บอลตรงตัว อูไน ซีม่อน
เรอัล มาดริด มาได้ประตูนำอีกรอบจนได้ในนาที 74 ดาเนียล การ์บาฆาล โยนบอลจากขวาเข้าเขตโทษไปถึง คาริม เบนเซม่า ได้โขกระยะ 8 หลาส่งบอลผ่านมือ อูไน ซีม่อน เข้าไปเป็น 2-1
ช่วงทดเจ็บ มาดริด มาได้ประตูย้ำชัยจากการยิงด้วยขวาในเขตโทษของ เบนเซม่า จากการจ่ายมาให้ของ โมดริช โดยที่จังหวะก่อนหน้านั้น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ซูเปอร์เซฟช่วยทีมเอาไว้ก่อนได้โต้กลับและจบด้วยประตู 3-1
เรอัล มาดริด จึงทำคะแนนขึ้นไปทาง เรอัล โซเซียดาด และ แอตเลติโก มาดริด ที่ 26 คะแนนเท่ากัน