แมนฯ ซิตี้ ปรับทีมหลายตำแหน่งจากนัดชนะ อาร์เซน่อล 3-0 แนวรุกส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ เป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วน เบิร์นลี่ย์ วาง มาเตย์ วิดร้า ล่าตาข่ายร่วมกับ เจย์ โรดริเกซ
แมนฯ ซิตี้ นำ 1-0 ในนาที 22 จากการเล่นเตะมุมลูกสูตร แบร์นาร์โด้ ซิลวา จ่ายให้ ฟิล โฟเด้น ที่หน้าเขตโทษก่อนที่แข้งดาวรุ่งจะกดด้วยซ้ายเต็มข้อส่งบอลเรียดเสียบโคนเสาเข้าไป
นาที 43 แมนฯ ซิตี้ ขยับหนีเป็น 2-0 บอลยาวจาก แฟร์นันดินโญ่ ไปถึง มาห์เรซ ได้ดึงลงทางฝั่งขวาก่อนโยกหนี ชาร์ลี เทย์เลอร์ แล้วยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างสุดยอด
ช่วงทดเจ็บ เรือใบนำห่าง 3-0 จากจุดโทษที่วีเออาร์ชี้ว่า เบน มี ทำฟาวล์ อเกวโร่ ก่อนเป็น มาห์เรซ รับหน้าที่สังหารแปเสียบตาข่ายนิ่มๆ ทำให้จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ นำ เบิร์นลี่ย์ 3-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ นำเป็น 4-0 ในนาที 51 จากการเล่นลูกสูตรเตะมุมอีกครั้ง ฟิล โฟเด้น ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนจ่ายให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่วิ่งฉีกไปทางขวาก่อนตบกลับมาให้ ดาบิด ซิลบา ล้มตัวชาร์จจ่อๆ เข้าไป
นาที 64 สกอร์ไหลเป็น 5-0 แบร์นาร์โด้ ซิลวา ปาดบอลจากขวาเข้ากลาง กาเบรียล เชซุส สะกิดเล็กน้อยเลยไปถึง ฟิล โฟเด้น กระแทกจังหวะเดียวส่งบอลตุงตาข่าย
ท้ายเกมนาที 79 ลีรอย ซาเน่ ที่เจ็บไปนานเกือบปี ได้กลับมาลงสนามให้ แมนฯ ซิตี้ อีกครั้งโดยถูกเปลี่ยนลงแทน ฟิล โฟเด้น
ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯ ซิตี้ ประคองตัวเข้าป้ายเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ไป 5-0 ยืดเวลาการฉลองแชมป์ของ ลิเวอร์พูล ออกไปนิดเพราะต่อให้ “หงส์แดง” ชนะ พาเลซ ในวันพุธนี้ก็ยังไม่ได้แชมป์
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน – ชูเอา กานเซโล่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, แฟร์นันดินโญ่, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – ฟิล โฟเด้น, โรดรี้ เอร์นานเดซ, ดาบิด ซิลบา – ริยาด มาห์เรซ, เซร์คิโอ อเกวโร่, แบร์นาร์โด้ ซิลวา
เบิร์นลี่ย์ : นิค โป๊ป – แมทธิว โลว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, ชาร์ลี เทย์เลอร์ – จอช บราวน์ฮิลล์, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, แจ็ค คอร์ก, ดไวท์ แม็คนีล – มาเตย์ วิดร้า, เจย์ โรดริเกซ
ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์
ขอบคุณข้อมูลจาก : TH Sport