ลิเวอร์พูล ฟอร์มหลุดสุดๆ หลังทำได้เพียงเสมอกับทีมท้ายตารางอย่าง เวสต์บรอมบริช ไป 1 – 1 ประตู แถมโยแอล มาร์ติป เจ็บ
ลิเวอร์พูล เปิดฉากด้วยการขึงเกมใส่ฝ่ายเดียว กระทั่งนาทีที่ 12 ก็มาขึ้นนำ 1-0 เมื่อ โฌแอล มาติป เปิดยัดเข้ากลางให้ ซาดิโอ มาเน่ พักอกไปข้างหน้าแล้วล้มตัวยิงตุงตาข่ายไม่เหลือ
หงส์แดง ยังครองยอลฝ่ายเดียว และมีลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 23 เมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดจากฝั่งขวามาให้ มาเน่ ล้มตัวชาร์จไปติดบล็อค ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง ออกหลังไป
เจ้าบ้านยังมีโอกาสเยอะ แต่ก็ไม่ค่อยจะอันตรายสักเท่าไหร่ นาทีที่ 30 มาได้ฟรีคิกกลางประตูระยะทำการ เทรนท์ วิ่งเข้าปั่นด้วยขวาเฉี่ยวกรอบออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 34 หงส์แดง ยังได้โอกาสต่อ บอลทะลักมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วอลเลย์ด้วยซ้ายหน้าเขตโทษก็ข้ามคานออกไป
ช่วงท้ายครึ่งแรก เวสต์บรอมวิช มีสวนมาเสียวเหมือนกัน แม็ตต์ ฟิลลิปส์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ดันเปิดเรียดไปถูก แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เขี่ยทิ้งไปได้ทัน หมดครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ 1-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลัง หงส์แดง เกือบหนีห่างเลยในนาทีที่ 46 เมื่อ ไวนัลดุม ไหลสั้นๆ ตั้งให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตะบันด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่ลูกติดไซด์ก้อยหลุดเสาไกลออกไป
นาทีที่ 59 ลิเวอร์พูล ต้องเจอข่าวร้ายในเกมรับอีกแล้ว เมื่อ มาติป อยู่ๆ ก็เจ็บเองที่ต้นขาเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเอาดาวรุ่งอย่าง รีส วิลเลี่ยมส์ ลงมา
เจ้าบ้านมีลุ้นหนีห่างอีกครั้งในนาทีที่ 65 ไวนัลดุม เปิดจังหวะเดียวจากกราบซ้ายให้ ซาลาห์ ได้โหม่งข้ามคานออกไป
พอ หงส์แดง มีโอกาสแล้วทำไม่ได้ เวสต์บรอมวิช เลยเริ่มที่จะมีแรงฮึดในการสวนกลับ นาทีที่ 68 คัลลั่ม โรบินสัน โยนจากด้านขวามาให้ เดียงกาน่า วอลเลย์ด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ แต่โดนไม่เต็มทำให้ลูกหลุดกรอบออกไป
อีก 3 นาทีถัดมา ทีมเยือนมีสวนน่ากลัวอีกครั้ง โรแม็ง ซอว์เยอร์ส หวดโด่งขึ้นหน้า คาร์ลัน แกรนท์ วิ่งแซง รีส วิลเลี่ยมส์ ทะลุเข้าเขตโทษไปตวัดยิง แต่ติดเซฟ อาลีสซง ที่ออกมาปิดมุมได้เร็ว
กลายเป็นว่านาทีที่ 82 เวสต์บรอมวิช มาตีเสมอ 1-1 จากความผิดพลาดของ เคอร์ติส โจนส์ ที่ไปเลี้ยงบอลวนหน้าเขตโทษจนจ่ายเสียกระทั่งเป็นเตะมุม ทีมเยือนเล่นสั้นก่อนที่ มาเตอุส เปเรยร่า จะปั่นโค้งมาให้ เซมี่ อาจายี่ โหม่งชนเสาเด้งเข้าประตูไป
นาทีที่ 89 ลิเวอร์พูล น่านำอีกครั้งเหลือเกิน เมื่อ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน โยนไปให้ ฟีร์มีโน่ ได้โหม่งลงพื้นเหน่งๆ แต่ แซม จอห์นสตัน พุ่งเซฟออกหลังได้เหลือเชื่อ
ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นเองก็ยังเอาประตูไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอ 1-1 แบบเสียฟอร์ม
